ประเทศชิลี : กรุงซันติอาโก
ประเทศชิลี มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐชิลี (República de Chile) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ มีเนื้อที่ติดชายฝั่งทะเลยาวระหว่างเทือกเขาแอนดีสกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีอาณาเขตจรดประเทศอาร์เจนตินาทางทิศตะวันออก จรดโบลิเวียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และจรดเปรูทางทิศเหนือ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกของประเทศมีความยาว 6,435 กิโลเมตร[1] ชิลีมีดินแดนในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยครอบครองหมู่เกาะควนเฟร์นันเดซ เกาะซาลาอีโกเมซ หมู่เกาะเดสเบนตูราดัส และเกาะอีสเตอร์ในโพลินีเซีย ชิลียังอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนในแอนตาร์กติกาด้วย
ผู้ถือหนังสือเดินทางของไทยทุกประเภท ทั้งประเภททูต ราชการและธรรมดา จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราจากทางการชิลี โดยสามารถพำนักได้เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน
ชิลีเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติโดยเฉพาะแผ่นดินไหวและสึนามิ คนไทยที่จะเดินทางไปชิลีจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงชิลีแล้ว ควรติดต่อลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อสถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้สามารถติดต่อและให้ความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
ข้อมูลเบื้องต้น
เมืองหลวง : กรุงซันติอาโก
ประชากร : 16 ล้านคน (5.3 ล้านคนในกรุงซานติอาโก)
พื้นที่ : 2,006,626 ตร.กม.(มีพื้นที่เกาะอีสเตอร์และเกาะอื่นๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกและพื้นที่บริเวณแอนตาร์กติกอีก 1,250,000 ตร.กม.)
ภาษาราชการ : สเปน
สกุลเงินตรา : เปโซชิลี (USD1 = 635.88 เปโซ - 19 ธ.ค. 51)
การปกครอง : สาธารณรัฐประชาธิปไตย
รายได้ต่อคน : USD 13,190 /คน/ปี
ฤดูกาล : มี 4 ฤดู คือ
ฤดูร้อน ปลายธ.ค.-มี.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย 13-29 C
ฤดูใบไม้ร่วง ปลายมี.ค.-มิ.ย. อุณหภูมิเฉลี่ย 8-23 C
ฤดูหนาว ปลายมิ.ย.-ก.ย. อุณหภูมิเฉลี่ย 4-16 C
ฤดูใบไม้ผลิ ปลายก.ย.-ธ.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย 8-22 C
เวลา : -4(ฤดูหนาว),GMT-3(ฤดูร้อน)
กระแสไฟฟ้า : 220 โวลต์
ประชากร : 16 ล้านคน (5.3 ล้านคนในกรุงซานติอาโก)
พื้นที่ : 2,006,626 ตร.กม.(มีพื้นที่เกาะอีสเตอร์และเกาะอื่นๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกและพื้นที่บริเวณแอนตาร์กติกอีก 1,250,000 ตร.กม.)
ภาษาราชการ : สเปน
สกุลเงินตรา : เปโซชิลี (USD1 = 635.88 เปโซ - 19 ธ.ค. 51)
การปกครอง : สาธารณรัฐประชาธิปไตย
รายได้ต่อคน : USD 13,190 /คน/ปี
ฤดูกาล : มี 4 ฤดู คือ
ฤดูร้อน ปลายธ.ค.-มี.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย 13-29 C
ฤดูใบไม้ร่วง ปลายมี.ค.-มิ.ย. อุณหภูมิเฉลี่ย 8-23 C
ฤดูหนาว ปลายมิ.ย.-ก.ย. อุณหภูมิเฉลี่ย 4-16 C
ฤดูใบไม้ผลิ ปลายก.ย.-ธ.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย 8-22 C
เวลา : -4(ฤดูหนาว),GMT-3(ฤดูร้อน)
กระแสไฟฟ้า : 220 โวลต์
ข้อควรทราบเมื่อเดินทางถึงประเทศชิลี
เมื่อเดินทางถึงและผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ให้เก็บรักษาเอกสารการตรวจคนเข้าเมืองที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เพราะจำเป็นต้องมอบคืนให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเดินทางออกนอก ประเทศชิลี
ทางการชิลี ไม่อนุญาตให้นำผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผักผลไม้ ที่ไม่ได้รับการรับรองการบรรจุหีบห่อจากประเทศผู้ผลิตเข้าประเทศ ดังนั้น หากท่านประสงค์จะนำผลิตภัณฑ์จากสัตว์หรือผักผลไม้ใดๆ เดินทางเข้าประเทศชิลี ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทราบ โดยกรอกแบบฟอร์ม Declaración Conjunta Aduana-SAG ที่ได้รับ มิฉะนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย ผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่าย อาทิ เมล็ดพืช/ผักผลไม้อบแห้ง (กาแฟ โกโก้ ถั่ว) ผักผลไม้แช่แข็ง น้ำผลไม้ น้ำมันพืช แป้ง น้ำตาล แอลกอฮอล์ ผักผลไม้แปรรูป (ในน้ำเชื่อม ดอง ปรุงสุก) ธัญญาหาร เครื่องปรุงป่น ชา เป็นต้น ทั้งนี้ การนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อการใช้ประโยชน์ส่วนบุคคลอาจดำเนินการได้ โดยต้องระบุในเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ต้องกรอกเพื่อผ่านกระบวนการตรวจคนเข้า เมือง และผ่านการตรวจสอบและอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ในช่องสำแดง(Declare) หลังจากเจ้าหน้าที่ฯ ได้ตรวจกระเป๋าเดินทางแล้ว
หากท่านจะอยู่อาศัยในประเทศชิลีเป็นระยะเวลานาน โปรดแจ้งชื่อ และที่อยู่ต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ หรือให้ความช่วยเหลือในกรณีจำเป็น
หากต้องการใช้โทรศัพท์มือของเมืองไทยที่ชิลีจะต้องเป็นโทรศัพท์ระบบ tri-band ที่เปิดใช้ระบบ international roaming และจนถึงขณะนี้ยังใช้ได้เฉพาะโทรศัพท์ในระบบ AIS ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท Entel PCS ของชิลี
อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 รวมอยู่ในราคาสินค้า และไม่สามารถเรียกคืน (refund) ได้ ทั้งนี้ กรณีชาวต่างชาติชำระค่าที่พักในชิลีเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
สถานที่สำคัญในกรุงซันติอาโกและเมืองใกล้เคียง
1. เนินเขาซานคริสโตบัล (Cerro San Cristobal)
เป็นยอดเนินเขาสูง 880 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เดิมมีชื่อภาษาท้องถิ่นว่า Tupahue ต่อมาในเจ้าอาณานิคมชาวสเปนได้เปลี่ยนชื่อให้เป็น Cerro San Cristobal (Saint Christopher Hill) ตามชื่อของนักบุญ Saint Christopher
บริเวณยอดเขามีประติมากรรมปูนปั้นพระแม่มารีขนาดความสูง 22.5 เมตรซึ่งได้รับการบริจาคจากฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1908 เนินเขานี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สูงที่สุดของกรุงซันติอาโก และมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น สวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ เป็นต้น ผู้สนใจสามารถเดินทางขึ้นเขาได้ทั้งโดยรถยนต์ รถราง และรถกระเช้า
2. หมู่บ้านหัตถกรรม โลส โดมินิโกส (Pueblito de los Dominicos)
2. หมู่บ้านหัตถกรรม โลส โดมินิโกส (Pueblito de los Dominicos)
เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมจำลอง ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของโบสถ์ โลส โดมินิโกส มีร้านขายของหัตถกรรมพื้นบ้านและของที่ระลึกของชิลีหลายประเภทที่มีคุณภาพ บางร้านมีการสาธิตการทำหัตถกรรมให้ชม นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและของว่าง 2 - 3 ร้านให้ได้เลือกรับประทานตามอัธยาศัย
3. พิพิธภัณฑ์ ลา ชาสโกนา (บ้านของกวีปาโบล เนรูด้า) (Museo Casa La Chascona) 1952
3. พิพิธภัณฑ์ ลา ชาสโกนา (บ้านของกวีปาโบล เนรูด้า) (Museo Casa La Chascona) 1952
สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2496 (ค.ศ.1953) บริเวณเชิงเขา Cerro San Cristobal เป็นบ้านพักแห่งหนึ่งในจำนวนบ้านพักสามแห่งของนายปาโบล เนรูด้า (Pablo Neruda) ซึ่งเป็นกวีที่ได้รับรางวัลโนเบลของชิลี บ้านแห่งนี้สร้างให้แก่ภรรยาคนที่ 3 (นาง Matilde Urrutia)
นายเนรูด้าได้รับการขนานนามว่าเป็นนักสะสมตัวยง ภายในบ้านจึงรวบรวมของสะสมของเนรูด้า อาทิ หนังสือ ภาพวาด ของประดับตกแต่งต่างๆ เป็นจำนวนมาก นายเนรูด้าเป็นผู้ออกแบบรูปแบบตัวบ้านและการตกแต่งบ้านด้วยตนเอง ปัจจุบัน ลา ชาสโกนาเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชมเพื่อให้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่และการตกแต่งบ้านพักของนายเนรูด้า
หลังจากที่นายเนรูด้าเสียชีวิตได้มีการจัดตั้งมูลนิธิเนรูด้าขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และเผยแพร่งานศิลปะและงานประพันธ์โดยทั่วไป และรวมไปถึงการดูแลงานประพันธ์ทรัพย์สินและบ้านทั้งสามแห่งของนายเนรูดาด้วย ณ บ้าน La Chascona นี้ มูลนิธิได้สร้างอาคารหอสมุดต่อเติมจากตัวบ้านดั้งเดิม เพื่อจัดเก็บรักษางานประพันธ์ของนายเนรูด้าและคลังหนังสือสะสมของเขา ซึ่งหนังสือเล่มที่เก่าแก่ที่สุดที่เขาสะสมได้รับการจัดทำขึ้นในศตวรรษที่ 15 บริเวณหอสมุดนี้ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม
4. สถานีมาโปโช่ (Estación Mapocho)
4. สถานีมาโปโช่ (Estación Mapocho)
เป็นสถานีรถไฟเดิมที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) ปัจจุบันเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของชิลี เป็นที่แสดงภาพวาดและศิลปะต่างๆ ตลอดจนเป็นศูนย์แสดงสินค้า ตัวอาคารเป็น 3 ชั้น ภายในประกอบด้วยภัตตาคาร ห้องแสดง ภาพถ่าย และมีมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ ที่ได้รับมาจากหอสมุดแห่งชาติ
5 ทำเนียบประธานาธิบดี (Palacio de la Moneda)
5 ทำเนียบประธานาธิบดี (Palacio de la Moneda)
อาคารทรงนีโอคลาสสิค สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2342 (ค.ศ. 1799) โดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่อ Joaquín Toesca เดิมใช้เป็นโรงกษาปณ์ แต่ปัจจุบันเป็นเพียงที่ทำงานของประธานาธิบดีเท่านั้น และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมบางบริเวณได้
6. ศาลฎีกา (Palacio de los Tribunales de Justicia)
6. ศาลฎีกา (Palacio de los Tribunales de Justicia)
อาคารที่ทำการศาลฎีกาเริ่มสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2401 (ค.ศ.1858) และทำการต่อเติมในปี พ.ศ. 2448 (ค.ศ. 1905) และปี พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911) เป็นศิลปะแบบกรีก-โรมัน สูง 3 ชั้น
ประธานศาลฎีกาของชิลีมาจากการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี มีวาระดำรงตำแหน่งครั้งละ 3 ปี ผู้พิพากษาของศาลฎีกา มีจำนวน 21 คน โดยได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีและต้องผ่านการเห็นชอบของวุฒิสภา ต้องมีอายุตั้งแต่ 36 ปีขึ้นไป และเกษียณเมื่ออายุครบ 75 ปี
7. จตุรัสอาร์มัส (Plaza de Armas)
7. จตุรัสอาร์มัส (Plaza de Armas)
เปโดร เด วาลดิเวีย ได้สร้างจตุรัสนี้ขึ้นกลางกรุงซันติอาโก เมื่อปีพ.ศ. 2084 (ค.ศ.1541) เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดตลาดนัดและเป็นลานฝึกอาวุธ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อม บริเวณโดยรอบเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญของกรุงซันติอาโก อาทิ ไปรษณีย์กลาง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ และมหาวิหาร (Metropolitan Church)
8. เนินเขาซานตาลูเซีย (Cerro Santa Lucia)
8. เนินเขาซานตาลูเซีย (Cerro Santa Lucia)
เป็นจุดที่เปโดร เด วาลดีเวีย ขึ้นไป และมองลงมา ณ ที่ราบเนินเขาด้านล่าง แล้วเกิดความประทับใจสร้างเมืองซันติอาโกขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2083 (ค.ศ.1540) ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะย่านกลางเมืองที่เป็นที่นิยมไปพักผ่อนของชาวเมืองซันติอาโก บนเนินเขามีปราสาทฮิดาลโก (Castillo Hidalgo) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2359 (ค.ศ. 1816) เพื่อเป็นป้อมปราการในการป้องกันกรุงซันติอาโก หลังจากนั้นได้มีการใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ และศูนย์จัดนิทรรศการ ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดกิจกรรมงานเลี้ยงต่างๆ ฝั่งตรงข้ามซานตาลูเซียมีตลาดนัดขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมือง
9. ตลาดกลาง (Mercado Central)
9. ตลาดกลาง (Mercado Central)
ตลาดขายสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลสด และในบริเวณตลาดมีร้านขายอาหารชิลี และนานาชาติ บางครั้งจะมีกลุ่มนักดนตรีมาเล่นและร้องเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศให้เป็นท้องถิ่นมากขึ้น
ธรรมเนียมปฏิบัติที่ควรทราบ
ชาวอเมริกาใต้รวมทั้งชาวชิลีจะพูดกับคู่สนทนาโดยยืนประชิดตัวใกล้กว่า ปกติ พยายามอย่าก้าวถอยหลังเพื่อรักษาระยะแม้ว่าท่านจะรู้สึกไม่สบาย หรือขัดเขินเพราะอาจทำให้คู่สนทนาคิดว่าท่านรังเกียจ
การพิมพ์นามบัตร ควรพิมพ์ภาษาอังกฤษด้านหนึ่งและภาษาสเปนอีกด้านหนึ่งและควรมอบนามบัตรให้ทุกคนที่พบ ยกเว้นเลขานุการ
บรรยากาศ การติดต่อธุรกิจจะมีความเป็นทางการมากกว่าในอเมริกาและยุโรป จึงควรรักษามารยาทและแต่งตัวให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม สำหรับสุภาพสตรีนิยมใช้ชุดสูทกางเกงในการพบติดต่อธุรกิจ แต่ในงานเลี้ยงมักใช้ชุดกระโปรงสั้น (หากเป็นผ้าไหมไทยจะช่วยสร้างความประทับใจมากยิ่งขึ้น)
ชาวชิลีมีอัธยาศัยและให้ความเป็นกันเองกับแขก แต่ไม่ชอบกิริยาที่โผงผาง ก้าวร้าว
ชาวชิลีไม่นิยมต่อรองราคาไม่ว่าในห้างสรรพสินค้าหรือตลาด นอกจากนี้ การขายสินค้าโดยไม่ออกใบเสร็จรับเงินถือว่าผิดกฎหมาย
ในร้านอาหารส่วนใหญ่จะไม่รวมค่าบริการในใบเสร็จรับเงิน ซึ่งโดยทั่วไปจะให้ประมาณร้อยละ 10 ของค่าอาหาร
มารยาททางธุรกิจ
การนัดหมาย
เวลาทำงาน คือ จันทร์-ศุกร์
เอกชน ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
ราชการ ตั้งแต่เวลา 9.00-17.30 น.
ธนาคาร ตั้งแต่เวลา 9.00-14.00 น.
พักกลางวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น.
ช่วงเวลาการนัดหมายทางธุรกิจที่เหมาะสม ได้แก่ เวลา 10.00-12.00 น. และ 15.00-17.00 น. ทั้งนี้การพบปะเพื่อติดตามความคืบหน้าทางธุรกิจในช่วงสายของวันถัดมา และตามด้วยการรับประทานอาหารกลางวัน (business lunch) ถือเป็นธรรมเนียมนิยม
ควรตรงต่อเวลา อย่างไรก็ดี ไม่ควรแปลกใจหรืออารมณ์เสียหากคู่นัดผิดเวลาไป 30 นาที ตามงานสังคม เป็นที่คาดว่าทุกคนจะมาถึงช้าประมาณ 15 นาที สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำ และ 30 นาที สำหรับงานเลี้ยงรับรอง
มารยาทการเข้าสังคม
การทักทาย
สุภาพบุรุษใช้วิธีสัมผัสมือแบบสากลนิยม ในขณะที่สุภาพบุรุษทักทายสุภาพสตรี และสุภาพสตรีทักทายระหว่างกันเองโดยการใช้แก้มด้านขวาสัมผัสกัน ซึ่งแสดงถึงอัธยาศัยไมตรีอันดีต่อกัน อย่างไรก็ตาม ชาวชิลีส่วนใหญ่จะเข้าใจและให้การปฏิบัติต่อแขกต่างชาติโดยการสัมผัสมือ อย่างสากล
การเรียกชื่อ
คนชิลีจะเขียนคำนำหน้าชื่อ คือ
นาย เรียกว่า Senor (ซินญอ)
นาง เรียกว่า Senora (ซินญอรา)
นางสาว เรียกว่า Senorita (ซินญอริต้า)
แล้วตามด้วยชื่อตัว นามสกุลบิดา และนามสกุลมารดา ส่วนในการเรียกชื่อจะใช้คำนำหน้าชื่อนามสกุลของบิดา
คนชิลีมักให้เกียรติคู่สนทนา (โดยเฉพาะกับบุคคลที่ไม่สนิทสนม หรือผู้มีความอาวุโสกว่า) ด้วยการใช้ระดับภาษาที่เป็นทางการในการสนทนา
การสังสรรค์
ที่งานเลี้ยงสังสรรค์ ควรทักทายเป็นรายบุคคล
การสังสรรค์นิยมกระทำตามโรงแรมและภัตตาคาร ควรประสานเรื่องการชำระเงินล่วงหน้ากับทางร้านค้าก่อน เพื่อป้องกันการแย่งกันจ่ายเงิน
หัวข้อการสนทนาที่ดีระหว่างการรับประทานอาหาร ได้แก่ เรื่องครอบครัว (ไม่ถือเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการแสดงความสนใจในตัวคู่สนทนา) ประวัติศาสตร์ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ควรหลีกเลี่ยงเรื่องการเมืองภายใน และศาสนา
การหยิบยก ประเด็นเกี่ยวกับชิลี อาทิ ไวน์ ทัศนียภาพจะทำให้คนชิลีรู้สึกดีต่อประเทศตนเองและกับคู่สนทนาว่ามีความสนใจ เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศของเขา
วันหยุดราชการ
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
21 มีนาคม วัน Good Friday
1 พฤษภาคม วันแรงงาน
21 พฤษภาคม วัน Commemoration of the Battle of Iquique
22 พฤษภาคม วัน Corpus Christi
29 มิถุนายน วัน St.Peter and St.Paul
16 กรกฎาคม วัน Virgin of the Carmen
15 สิงหาคม วัน Assumption of the Virgin Mary
18 กันยายน วัน Independence Day
19 กันยายน วัน Day of the Army
12 ตุลาคม วัน Columbas Day
31 ตุลาคม ววัน National Day of Evangelical and Protestant Churches
1 พฤศจิกายน วัน All Saints
8 ธันวาคม วัน Immaculate Concepttion
25 ธันวาคม วัน Christmas
21 มีนาคม วัน Good Friday
1 พฤษภาคม วันแรงงาน
21 พฤษภาคม วัน Commemoration of the Battle of Iquique
22 พฤษภาคม วัน Corpus Christi
29 มิถุนายน วัน St.Peter and St.Paul
16 กรกฎาคม วัน Virgin of the Carmen
15 สิงหาคม วัน Assumption of the Virgin Mary
18 กันยายน วัน Independence Day
19 กันยายน วัน Day of the Army
12 ตุลาคม วัน Columbas Day
31 ตุลาคม ววัน National Day of Evangelical and Protestant Churches
1 พฤศจิกายน วัน All Saints
8 ธันวาคม วัน Immaculate Concepttion
25 ธันวาคม วัน Christmas
หมายเหตุ : โดยที่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นศาสนาที่สำคัญของชิลี จึงอาจมีวันสำคัญทางศาสนาบางวันที่ถือเป็นวันหยุด จึงควรตรวจสอบก่อน
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน
รถพยาบาล หมายเลข 131
รถดับเพลิง หมายเลข 132
ตำรวจ หมายเลข 133
รถดับเพลิง หมายเลข 132
ตำรวจ หมายเลข 133
#ขอขอบคุณบทความดีๆจาก http://travel.sanook.com/ ซืึงได้รับข้อมูลมาจาก
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
No comments:
Post a Comment