1. ใช้หน้าต่างแบบไม่ระบุตัวตน (Incognito) เวลาจองตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากเว็บจองตั๋วส่วนใหญ่จะจดจำข้อมูลการเยี่ยมชม และราคาจะสูงขึ้นทุก ๆ ครั้งที่เราเข้าไปเสิร์ชหาราคาในเว็บไซต์
2. เก็บสายไฟและหูฟังอย่างเป็นระเบียบในกล่องใส่แว่น
3. ใช้หลอดดูดทำที่ใส่ครีมแต่งหน้า รวมไปถึงเครื่องปรุงต่างๆในปริมาณที่พอเพียงสำหรับการเดินทาง โดยการใช้ไฟแช็กลนที่หลอดให้มันละลายติดกัน
4. เอากระดาษแผ่นปรับผ้านุ่ม ใส่ไว้ก้นกระเป๋าให้เสื้อผ้าหอม ๆ
5. เอาสปริงจากปากกาที่ไม่ใช้แล้วมาใส่ที่ขั้วสายไฟ สายจะได้ไม่ขาดหรือหักงอ
6. อย่าเสียเวลาต่อแถวนานหน้าห้องน้ำที่สนามบิน โดยส่วนใหญ่ห้องน้ำแรกในสนามบินจะแน่นที่สุด ถ้าเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอห้องน้ำที่สะอาดและโล่งกว่ามาก
7. ใช้ตัวหนีบดำปกป้องหัวมีดโกน
8. ถ้าลืมเอาสายชาร์จแบบหัวปลั๊กมา ให้ต่อสายกับที่เสียบ USB ที่ทีวีเอานะ
9. ม้วนเสื้อแทนการพับเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่
10. ถ้ามีเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องพับ รองด้วยกระดาษทิชชูกันยับก่อนหนึ่งชั้น
12. สแกนเอกสารสำคัญเก็บไว้ก่อนออกเดินทาง บางครั้งแค่ถ่ายเอกสารอาจจะไม่พอ ให้สแกนเป็นไฟล์ให้ชัดแล้วส่งอีเมลหาตัวเอง หรือใส่ไว้ใน Cloud เพื่อให้เรียกใช้ได้ง่ายผ่านมือถือก็ได้
13. เก็บสบู่ก้อนไว้ในกระเป๋าผ้าขนหนู ใช้เป็นที่ขัดขี้ไคลได้อีกด้วย
14. หมวกคลุมอาบน้ำเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันเสื้อผ้าเปื้อนพื้นรองเท้า
15. เปิดมือถือเป็น Airplane Mode เพื่อประหยัดแบตฯ และทำให้ชาร์จเต็มเร็วขึ้นด้วย
16. เก็บหูฟังกับตัวไว้ให้เรียบร้อยด้วยคลิปหนีบแบบนี้ เอาไปหนีบไว้กับสายกระเป๋าหรือเสื้อได้ด้วย
17. ใส่กิ๊บดำไว้ในกล่องลูกอมที่ไม่ใช้แล้ว
18. ม้วนเข็มขัดใส่ไว้ตรงคอปกเสื้อเพื่อกันยับ
19. นั่งบริเวณปีกเครื่องบินเพื่อลดปัญหาจากความกดอากาศ เครื่องบริเวณปีกจะส่ายน้อยกว่า เพราะมีโครงสร้างมาค้ำจุนมากกว่าส่วนอื่นในเครื่องบิน
20. เก็บภาชนะใส่ของสำหรับการเดินทางเอาไว้ แล้วใช้เติมเอาแทนที่จะต้องซื้อใหม่ทุกครั้ง
21. ใช้ Google Maps แบบออฟไลน์ได้โดยการพิมพ์ “OK Maps” เราจะเรียกรูปแผนที่ขึ้นมาดูได้ แม้ไม่มีเน็ตใช้
22. แทนที่จะต้องซื้อน้ำราคาแพงที่สนามบิน ให้เอาขวดเปล่าหรือกระติกไป และค่อยเติมใหม่หลังผ่านจุดเช็กแล้ว
23. หากเดินทางไปกับเพื่อน 2 คน โดยเครื่องบินลำใหญ่แบบริมหน้าต่าง 3 ที่นั่ง ให้คนหนึ่งจองริมหน้าต่าง อีกคนริมทางเดิน หากไม่มีใครนั่ง จะได้ใช้พื้นที่ตรงกลางได้ หรือถ้ากรณีที่มีคนนั่งก็ค่อยขอเปลี่ยนที่เอา
24. กลับสูทหรือโค้ทข้างในออกข้างนอกเวลาแพ็ก เสื้อจะได้ไม่เปื้อนและเป็นรอยพับ
25. ให้คอยซื้อตั๋วเครื่องบินเวลาบ่าย 3 ของวันอังคาร ตามปกติแล้วนี่จะเป็นช่วงเวลาที่สายการบินใหญ่ ๆ ลดราคาลงเพื่อสู้กับสายการบินราคาถูก อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบนี้ทั่วโลกหรือเฉพาะอเมริกานะครับ
26. ป้องกันของเหลวหกเลอะเทอะด้วยแรปห่ออาหาร ให้เปิดฝาออกมาก่อน แล้วเอาพลาสติกห่ออาหารมาปิดก่อนรอบหนึ่งแล้วค่อยใส่ฝาเข้าไปใหม่ จะได้ไม่ต้องคอยห่วงเรื่องของหกเลอะเทอะในกระเป๋าเดินทาง
27. หารหัส Wi-Fi ได้เกือบทุกที่โดยการเข้าไปดูส่วนของคอมเมนต์ใน Foursquare
28. ใช้ GPS เวลาเดินทางต่างประเทศ ถ้าเดินทางนอกประเทศโดยไม่ใช้เน็ต ให้เปิดเป็น Airplane Mode และใช้ GPS แบบออฟไลน์ ให้โหลดกูเกิลแมพของสถานที่เอาไว้ก่อนออกจากโรงแรม และคุณจะได้แผนที่ที่ใช้งานได้จริงในการเดินทาง
29. หากลืมเอาที่ชาร์ตมาจากบ้าน บางครั้งโต๊ะรีเซฟชั่นในโรงแรมจะมีชาร์จเจอร์มากมายหลายรุ่นให้ยืมใช้ จากแขกคนก่อน ๆ ที่ลืมเอาไว้ที่โรงแรม
30. ไม่ต้องรอกระเป๋านานอีกต่อไป การติดป้ายกระเป๋าว่า Fragile ไม่เพียงแต่จะทำให้ของถูกหยิบจับอย่างระมัดระวังเท่านั้น ของที่มีป้ายนี้จะเป็นสัมภาระชุดแรกที่ได้ออกจากเครื่องมาที่สายพานรับของอีกด้วย
31. ประหยัดเวลาหากต้องย้ายที่ในเวลาอันรวดเร็ว ที่จัดระเบียบกระเป๋าช่วยย่นระยะเวลาเก็บของได้มาก สมัยนี้มีขายหลายแบบหลากสีและราคาไม่แพงอีกด้วย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเดินทางยุคใหม่
32. ไม่ต้องง้อ Wi-Fi แพง ๆ ที่สนามบินอีกต่อไป เพียงแค่พิมพ์ ?.jpg เข้าไปหลัง URL ก็สามารถเข้าได้ทุกเว็บที่เราต้องการแล้ว
33. เพื่อเรียกคะแนนป๊อปปูลาร์ให้ตัวเอง ให้พกปลั๊กพ่วงใส่กระเป๋าไปด้วย
34. ในวันสุดท้ายที่ต่างประเทศ ให้รวบรวมเศษเอาไปบริจาคหรือซื้อขนมแจกเด็กๆในพื้นที่ เนื่องจากถ้านำกลับไทย ธนาคารก็ไม่รับแลกเหรียญอยู่แล้ว ที่สำคัญการให้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
35. สิ่งที่สำคัญที่สุดในทั้งหมด…อย่าหยุดเดิน เพราะชีวิตคือการเดินทางและการเรียนรู้นะคะ!
#ขอขอบพระคุณบทความดีจาก wegointer.com ด้วยนะคะ ><
No comments:
Post a Comment