Tuesday, July 23, 2013

10 เส้นทางรถไฟที่สวยและโรแมนติกที่สุดในยุโรป!


อันดับ 1 สาย Rauma จาก Dombås ถึง Åndalsnes ประเทศนอร์เวย์



 นอร์เวย์ขึ้นชื่อในเรื่องประเทศที่มีทิวทัศน์สวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่รถไฟสายนี้จะสวยเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป ผู้โดยสารจะเพลิดเพลินไปกับยอดเขาสูงมากมาย ที่มีทั้งผาหินชันและต้นไม้เขียวชอุ่มค่อยๆ ลาดลงมาเจอแม่น้ำรอม่า สายนี้มีความยาว 114กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเที่ยวลชั่วโมงครึ่ง ส่วนช่วงที่วิวแถวนี้จะสวยที่สุดคือช่วงฤดูร้อน 


อันดับ 2 สาย Bergen จาก Oslo ถึง Bergen โดยผ่าน Flåm ประเทศนอร์เวย์



 อันดับนี้ก็ยังคงเป็นของนอร์เวย์ แต่สายนี้ใช้เวลาเดินทางถึง 9ชั่วโมง แม้จะมีระยะทาง 550 กิโลเมตรเท่านั้น เพราะทางรถไฟสายนี้จะพาทะลุเข้าไปในหุบเขา และวะกลับขึ้นไปยังสถานีรถไฟที่สูงที่สุดของประเทศอีกด้วย (สูงตั้ง 1.2กิโลเมตรจากพื้นดิน)ทำให้กลายเป็นรางรถไฟโดยสารที่ชันที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังพาผู้โดยสารไปเยี่ยมชมหอประวัติศาสตร์วิศวกรรมการรถไฟอีกด้วย ส่วนช่วงที่วิวสวยที่สุดคือหน้าร้อนที่ดอกไม้จะงดงาม หรือไม่ก็หน้าหนาวที่ทุกอย่างกลายเป็นสีขาว



อันดับ 3 สาย West Highland จาก Fort William ถึง Mallaig ประเทศสกอตแลนด์


 สายนี้แฟนๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะต้องร้องอ๋อทันทีเมื่อเห็น เพราะเป็นสายเดียวกับที่เห็นในภาพยนตร์ภาพรถด่วนฮอกวอตส์แวบเข้ามาในความคิดทันทีเลย  ทิวทัศน์ระหว่างทางประกอบไปด้วยที่ราบสูงสีเขียวสลับน้ำตาล ทะเลสาบ และชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ยังพาดผ่านภูเขาที่สูงที่สุดของสหราชอาณาจักรด้วย เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาผู้โดยสารสามารถมองเห็นไปไกลถึงอีกเมืองเลย สายนี้ยาว 67 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละชั่วโมงครึ่ง และช่วงที่วิวสวยที่สุดก็คือฤดูร้อน


อันดับ 4 สาย Bernina Express จาก Chur ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถึง Tirano ประเทศอิตาลี



 สายนี้เอาใจกันสุดๆ ด้วยหน้าต่างบานกว้างเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้โดยสารได้ชมวิวของเทือกเขาแอลป์ในแบบพาโนรามา จะได้เห็นชัดเจนเลยว่าจากฝั่งยุโรปเหนือที่มีแต่ธารน้ำแข็ง มาเข้ายุโรปใต้ที่อิตาลีแล้วมีความแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ยังผ่านเส้นทางรถไฟโบราณที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกถึง 2 แห่ง รวมไปถึงย่านคนรวยเว่อร์ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ด้วย ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละ 4ชั่วโมง ตลอดระยะทาง 123 กิโลเมตร ส่วนช่วงที่น่าไปที่สุดคือเดือนเมษายน


อันดับ 5 สาย Cinque Terre จาก Levanto ถึง La Spezia ประเทศอิตาลี


  ทิวทัศน์รอบๆ เส้นทางนี้มีทั้งหมู่บ้านท้องถิ่น 5หมู่บ้าน ที่จะสร้างอาคารเป็นสีสันต่างๆ และสร้างไล่ระดับกันไปเรื่อยๆ ตลอดชายฝั่ง ผู้โดยสารจะมองเห็นทะเลลิกูเรียนที่มีสีฟ้าเหมือนเทอควอยซ์ รวมไปถึงผ่านไร่องุ่นอีกหลายแห่ง ช่วงที่รถไฟจอดพักให้ที่แต่ละหมู่บ้านก็สามารถลงไปซื้อของและเก็บภาพริมชายฝั่งได้นะคะ สายนี้ยาวเพียง 20กิโลเมตรและใช้เวลาเดินทางเพียง 40นาที ฤดูที่ควรมาเที่ยวคือตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงฤดูร้อน


อันดับ 6 สาย Central Rhine จาก Bingen ถึง Koblenz ประเทศเยอรมนี


 ว่ากันว่าสายนี้เป็นสายที่โรแมนติกที่สุดของที่สุดในประเทศ เพราะผ่านปราสาทสวยๆ แบบในนิทานหลายที่ และยังมีทางน้ำที่คดเคี้ยวแต่งดงามราวกับภาพวาด สายนี้มีระยะทางเพียง 61กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที และช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง


อันดับ 7 สาย Semmering จาก Gloggnitz ถึง Mürzzuschlag ประเทศออสเตรีย


 ผู้โดยสารสาย Semmering จะรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ใน Wonderland (จากอลิซในดินแดนมหัศจรรย์) เพราะผ่านทั้งช่องเขา อุโมงค์หลายสาย ทางส่งน้ำโบราณ และสะพานทรงโค้งแบบโบราณอีกหลายแห่ง  รถไฟสายนี้ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ระยะทาง 41 กิโลเมตรค่ะ ส่วนช่วงเวลาที่น่าเที่ยวก็คือทุกวันตลอดปีค่ะ เพราะเป็นดินแดนมหัศจรรย์จริงๆ


อันดับ 8 สาย Centovalli จาก Locarno ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถึง Domodossola ประเทศอิตาลี


คำว่า Centovalli แปลว่าร้อยหุบเขา ฉะนั้นทิวทัศน์รอบๆ จึงมีท้ังน้ำตกใหญ่น้อย ทุ่งเชสนัท ป่าไม้เขียวขจี และไร่องุ่นหลายแห่ง นอกจากนี้ยังจะเห็นเทือกเขาแอลป์ในมุมที่สวยที่สุด รวมไปถึงผ่านทะเลสาบมักกิโอเร่ที่เป็นสีน้ำเงินใสราวกับอัญมณี ควรโดยสารรถไฟสายนี้ในช่วงฤดูร้อน ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ระยะทาง 52 กิโลเมตร


อันดับ 9 สายจาก Munich ประเทศเยอรมนีถึง Innsbruck ประเทศออสเตรียโดยผ่าน Garmisch-Partenkirchen 



  การเดินทางระหว่าง 2 เมืองนี้มีหลายวิธีมาก แม้แต่รถไฟเองก็มีหลายสาย แต่สายที่ชาวท้องถิ่นแนะนำให้ใช้มากที่สุดคือสายนี้ที่ต้องผ่านเมือง Garmisch-Partenkirchen เพราะผู้โดยสารจะเห็นทะเลสาบสวยๆ หลายแห่ง รวมไปถึงภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี และภูเขาใหญ่น้อยอีกหลายลูกที่เรียงรายกันนอกเมืองนี้ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ระยะทาง 157 กิโลเมตร และสามารถมาเที่ยวได้ตลอดปีเพราะสวยตลอดจริงๆ


อันดับ 10 สาย Glacier Express จาก Zermatt ถึง St Moritz ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


 ชื่อเล่นของรถด่วนสายนี้คือสายมหาเศรษฐี เพราะมีโอกาสพบมหาเศรษฐีสูงกว่าปกติหลายเท่าตัว เนื่องจากตลอดเส้นทางที่วิ่งข้ามเทือกเขาแอลป์นั้น จะผ่านสกีรีสอร์ตที่หรูหราที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ถึง 2 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเศรษฐีหลายๆ คนในโลกเลย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติด้วย ฤดูที่น่าเที่ยวก็คงไม่พ้นฤดูหนาว รถด่วนสายนี้ใช้เวลาวิ่ง 7ชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 291 กิโลเมตร


















Sunday, July 7, 2013

12 ประเทศที่ใช้สมาร์ทโฟนมากที่สุดในโลก!

อันดับ 1 จีน: ชอบที่สมาร์ทโฟนมันไม่โจ่งแจ้งดี



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 1.2 พันล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 246 ล้านเครื่อง
     52% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวจีนให้เหตุผลว่า ชอบที่มันทำให้แอบส่องเรื่องราวของคนอื่นได้ง่าย นอกจากนี้ 27% ของผู้ใช้มีแอพมากกว่า 21 ตัวในสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวจีนยังชอบเขียนรีวิวร้านค้าต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟนอีกด้วย

อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา: ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนกันทั้งนั้น



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 333 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 230 ล้านเครื่อง
     ช่วงอายุหลักของเจ้าของสมาร์ทโฟนในสหรัฐอยู่ที่วัย 18 - 54 ปี ส่วนผู้ที่อายุเกิน 65 ปีจะมีสมาร์ทโฟนถ้ามีรายได้เกิน 3 ล้านบาทต่อปีซะส่วนใหญ่ โดย 51% ของผู้ที่มีสมาร์ทโฟนบอกว่าต้องเอาเข้านอนด้วย

อันดับ 3 ญี่ปุ่น: ชอบแอพ แต่ไม่ค่อยเน้นโซเชียลมีเดีย



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 128 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 78 ล้านเครื่อง
     โดยเฉลี่ยแล้ว เจ้าของสมาร์ทโฟนจะมีแอพอยู่ที่ 41 ตัว ซึ่งส่วนมากไม่ใช่แอพโซเชียลที่ใช้ติดต่อกับสังคม 1 ใน 3 ของชาวญี่ปุ่นที่ใช้สมาร์ทโฟน ไม่เคยเข้าเว็บโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ค พินเทอร์เรสต์ หรือทัมเบลอร์ด้วยซ้ำ ข้อมูลที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคิดค้นเคสโทรศัพท์ที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนผิวหนังมนุษย์ออกมาแล้วด้วย 

อันดับ 4 บราซิล: ชอบสังคมออนไลน์เป็นที่สุด



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 259 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 55 ล้านเครื่อง

     บราซิลเป็นรองแค่สหรัฐอเมริกาในการดาวน์โหลดแอพสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ทัมเบลอร์ ฯลฯ เพราะประโยชน์หลักของสมาร์ทโฟนในสายตาคนที่นี่คือการติดต่อครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรู้จักได้ตลอดเวลา ส่วนมากจะใช้อีเมลและเฟซบุ๊ค

อันดับ 5 อินเดีย: รักการเข้าเว็บและแชทมากที่สุด



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 700 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 44 ล้านเครื่อง
     ผู้ชายอินเดียใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อหาข้อมูล ส่วนผู้หญิงอินเดียจะชอบใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ ทั้งจากแอพโซเชียล และการแชท ส่วนการใช้สมาร์โฟนแบบออฟไลน์นั้น ผู้ชายอินเดียจะใช้มากกว่าผู้หญิง


อันดับ 6 สหราชอาณาจักร: สมาร์ทโฟนจัดเป็นอวัยวะอีกอันของร่างกาย



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 76 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 43 ล้านเครื่อง
     22% ของวัยทำงานในสหราชอาณาจักรยอมรับว่าติดสมาร์ทโฟนมากถึงขนาดที่ ถ้าโทรศัพท์ดังขณะทำธุระอยู่ในห้องน้ำ ก็ยังรับตามสัญชาติญาณไม่ว่าปลายสายจะเป็นใคร เรียกได้ว่ามีจำนวนผู้ติดสมาร์ทโฟนมากกว่าผู้ติดบุหรี่ทั้งประเทศถึง 2 เท่าด้วยซ้ำ

อันดับ 7 เกาหลีใต้: ช้อปปิ้งง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว


จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 56 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 32 ล้านเครื่อง
     ที่นี่มีร้านขายของเสมือนจริงสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน โดยมีชั้นวางของเป็นภาพของสินค้าต่างๆ ขาช้อปเพียงแค่สแกนบาร์โค้ดด้วยสมาร์ทโฟน เพื่อเลือกซื้อสินค้า แล้วสินค้าที่เลือกซื้อก็จะจัดส่งไปให้วันรุ่งขึ้น 

อันดับ 8 เยอรมนี: สมาร์ทโฟนคือกับแกล้มที่ดีที่สุดของเบียร์


จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 107 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 27 ล้านเครื่อง
     ชาวเยอรมันดื่มเบียร์มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเช็ก ฉะนั้นการใช้สมาร์ทโฟนหลักๆ ของคนที่นี่ก็คือใช้เซิร์ชหาร้านอาหารหรือผับ และเมื่อได้ข้อมูลร้านที่จะไปแล้ว อันดับต่อมาที่คนเยอรมันจะใช้สมาร์ทโฟนคือเช็คยอดเงินในบัญชี

อันดับ 9 ฝรั่งเศส: สมาร์ทโฟนคือเรื่องเงินๆ ทองๆ


จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 72 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 26 ล้านเครื่อง
     ฝรั่งเศสกำลังพิจารณาจัดเก็บภาษีวัฒนธรรม 1% สำหรับสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง เพื่อนำเงินภาษีนี้ไปใช้ในการพัฒนาหนังสือ เพลงและภาพยนตร์แบบดิจิตอล

อันดับ 10 แคนาดา: Great Canadian Apps


จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 27 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 23 ล้านเครื่อง
     เพราะมีนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีความสามารถมากมายในประเทศแคนาดา และยังมีแอพที่พัฒนาเพื่อแคนาดาโดยเฉพาะอีกเยอะ ทำให้ Apple มีเซ็คชั่นเฉพาะให้เลยว่า Great Canadian Apps(แอพแคนาดาเจ๋งๆ) ใน App Store

อันดับ 11 รัสเซีย: มีแอพสำหรับนักโทษด้วย


จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 256 ล้านเครื่อง (โดยเฉลี่ยมีมือถือกันคนละเครื่องครึ่ง)
จำนวนสมาร์ทโฟน: 22 ล้านเครื่อง
     นักโทษในรัสเซียจะได้รับสมาร์ทโฟนพิเศษพร้อมแอพเฉพาะตัว สำหรับติดต่อครอบครัวและคนรักนอกเรือนจำ โดยครอบครัวผู้ต้องขังสามารถส่งภาพและข้อความมาหาได้ แต่ปัญหาคือ สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษนี้มีไม่พอกับจำนวนนักโทษ 

อันนั้น 12 สเปน: ขาดสมาร์ทโฟน เหมือนขาดใจ



จำนวนโทรศัพท์มือถือในประเทศ: 56 ล้านเครื่อง
จำนวนสมาร์ทโฟน: 18 ล้านเครื่อง
     93% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสเปนบอกว่าจะไม่สามารถทำอะไรในชีวิตได้เลย ถ้าไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน แถมบางกลุ่มก็เป็นหนักถึงขั้นไม่สามารถสั่งอาหารเย็นได้ ถ้าไม่ได้เปิดแอพต่างๆ ก่อน