Monday, September 28, 2015

เหตุผลที่ว่า “ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าแถว ไม่แซงคิว” โดย อาจารย์ฮารา ชินทาโร่

อาจารย์ฮารา ชินทาโร่ ซึ่งเป็นอาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้เขียนถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าแถว ไม่แซงคิว 

jqjq

โดยอาจารย์บอกว่าเขาเองก็ไม่ทราบว่า ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าคิวทุกครั้ง และแทบจะไม่มีใครกล้าแซงคิว ที่สำคัญมันยังเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับงานวิจัยด้วย

1. เป็นวัฒนธรรมในสังคมญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นถูกสอนตั้งแต่สมัยอนุบาลศึกษา ทั้งพ่อแม่ ทั้งครู และทั้งบรรดาผู้ใหญ่จะดุเด็กๆ ที่แซงคิวหรือไม่เข้าคิว ตั้งแต่สมัยเด็ก ก็เข้าใจว่าการแซงคิวนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับดีหรือไม่ดี แต่อยู่ที่ว่าทำได้หรือทำไม่ได้มากกว่า เนื่องจากว่าทุกครั้งที่พยายามจะแซงคิว เด็กๆจะโดนผู้ใหญ่ดุ และไม่มีผู้ใหญ่ที่แซงคิว ทำให้เด็กรู้ว่า ฉันก็ทำไม่ได้

jq2
 คนญี่ปุ่นต่อคิวรอซื้อ iPhone 4S ที่ Apple store ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2011
2. คนที่แซงคิวถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณค่า เพราะคนนั้นเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่เกรงใจคนอื่น และทำให้คนอื่นรอนานเพราะความเห็นแก่ตัวของตนเอง ชาวญี่ปุ่นแทบทุกคนเน้นความตรงต่อเวลามาก ดังนั้น การแซงคิวหมายความว่า คนที่แซงนั้นไม่ให้เกียรติต่อเวลาของคนอื่น เมื่อคนใดคนหนึ่งไม่เห็นคุณค่าในเวลาของคนอื่น คนนั้นก็ถูกมองว่าคนที่ไร้คุณค่า
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับสึนามิโศกนาฎกรรมน่าเศร้าเช่นนี้ ญี่ปุ่นก็ยังแสดง ภาพน่าประทับใจให้เห็นถึงสังคมที่มีรูปแบบอย่างดีสามารถรับมือกับวิกฤตอย่าง นิ่งสงบและมีระเบียบ

jq1
ชาวญี่ปุ่นเข้าคิวรอขึ้นรถบัสเพื่ออพยพออกจากเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น ในเหตุการแผ่นดินไหวปี 2011
3. สิทธิและความเท่าเทียมกัน แม้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าของแถวนั้นเป็นคนใดก็ตาม เราก็รู้สึกว่า เขามีสิทธิมากกว่าเรา แม้ว่าเราจะมีอำนาจสูกว่า มีเงินมากกว่า มีการศึกษาสูงกว่า ตำแหน่งที่สูงกว่าก็ตาม ในแถวนั้น คนที่มีสิทธิมากที่สุดก็คือคนที่มาเร็วที่สุด คนนั้นเป็นใคร ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เวลาคนญี่ปุ่นเค้าจะข้ามถนนยังต้องเข้าแถวเลย

jqq
งานฉลองเค้กข้าวหรือโมจิ ที่จัดขึ้นในวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในประเทศญี่ปุ่น
4. สังคมญี่ปุ่นเชื่อว่า การเข้าคิวนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะถ้าไม่มีคิว คนที่ได้เปรียบที่สุดก็คือ คนที่ไม่รู้จักคำว่าอาย เราก็ไม่อยากจะให้สังคมของเราเป็นสังคมที่คนที่ไม่รู้จักคำว่า อาย ได้เปรียบ ทุกคนก็ยอมรับที่จะเข้าแถว แม้ว่าแถวนั้นจะยาวเป็นหลายกิโลก็ตาม
ในสังคมบางสังคม ในขณะที่เราเข้าแถว ผู้ใหญ่มาถึงที่นั้น มักจะมีคนที่ต้อนรับท่านผู้ใหญ่และบอกว่า “เชิญทางนี้นะค่ะ/ครับ” หลังจากนั้นก็จะให้บริการแก่ท่านผู้ใหญ่คนนั้นก่อนคนที่เข้าแถวเป็นเวลานาน
ถ้าในประเทศญี่ปุ่น อาจจะมีคนที่ต้อนรับท่านผู้ใหญ่ (แม้ว่าหายาก) แต่คนที่ต้อนรับท่านผู้ใหญ่นั้นก็ต้องบอกว่า “ขอบคุณครับท่าน ขอโทษนะครับ วันนี้ คิวมันจะยาวหน่อยครับ”
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก http://www.wegointer.com/2014/06/yjapanese/

“Love Lesson” เมื่อเด็กๆถูกถามคำถามว่า “ความรักคืออะไร?”

ความรักคืออะไร? ความรักอาจจะดูซับซ้อน เนื่องจากมีหลากหลายวิธีมากที่คนคนหนึ่งจะสามารถแสดงความรักต่อผู้อื่นได้ จากคลิปวิดีโอที่เพื่อนๆจะได้เห็นนี้ ทางทีมงานได้สัมภาษณ์เหล่าเด็กๆ พร้อมกับถามคำถามที่ได้ได้เตี๊ยมกันมาก่อนว่า “ความรักคืออะไร?”

เด็กๆต่างอธิบายความหมายงายๆของความรักอย่างน่ารักและตรงไปตรงมา ความรักของแต่ละคนเป็นแบบไหน เราลองไปดูจากคลิปวิดีโอนี้กันได้เลย


ขอบคุณแหล่งที่มาจาก http://www.wegointer.com/2015/09/love-lesson/

Friday, September 18, 2015

แนะนำวิธีเรียนภาษาฝรั่งเศสง่ายๆจากsmart phone


สวัสดีค่ะวันนี้กิ๊ฟก็มีวิธีเรียนภาษาฝรั่งเศสง่ายๆผ่านinstagram และ Twitter มาฝากกันค่ะ แน่นอนค่ะว่าสองแอพนี้เป็นแอพที่เพื่อนๆทุกคนมีติดไว้ในมือถือของเพื่อนๆเกือบทุกคน(ใช่มะละะ555) วันนี้กิ๊ฟเลยจะมายกตัวอย่างไอจีหรือทวิตเตอร์ที่น่าสนใจแล้วเพื่อนๆลองไปปปกดติดตามด้วยนะะ 😁

 
และนี้ก็คือแอคเคาร์ทตัวอย่างที่น่าเป็นกดติดตามไว้นะคะ  ถ้าคราวหน้ากิ๊ฟมีอะไรดีๆมานำเสนออีก รอติดตามด้วยนะคะ  😁😁





Saturday, June 27, 2015

Love Wins!


June 26, 2015. Twelve years to the day after the Supreme Court struck down bans on sodomy in Lawrence v. Texas. Two years to the day after the Supreme Court struck down the Defense of Marriage Act in United States v. Windsor. Today, the Supreme Court of the United States has held that states may not deny marriage licenses to same-sex couples and must recognize same-sex couples' existing marriages.

President Barack Obama on Friday hailed the Supreme Court's decision that legalizes gay marriage nationwide, saying from the White House that a persistent effort on behalf of millions had led to social justice. 
"Progress on this journey often comes in small increments. Sometimes two steps forward, one step back, propelled by the persistent effort of dedicated citizens. And then sometimes there's days like this, when that slow, steady effort is rewarded with justice that arrives like a thunderbolt," Obama said in an emotional statement from the Rose Garden of the White House.
"There's so much work to be done to extend the full promise of America to every American. But today we can say — in no uncertain terms — that we've made our union a little more perfect."
Justice Anthony Kennedy issued the majority opinion in the 5-4 ruling, which found that the 14th Amendment requires a state to license a marriage between two people of the same sex. 
In his statement, Obama called the decision a "victory for America," saying that it was "gratifying" to see the principle that all Americans are created equal be affirmed with respect to who they love.
"Today should also give us hope that on the many issues with which we grapple, often painfully — real change is possible," Obama said.
"America," he added, "should be very proud."

Tuesday, June 2, 2015

โครงการ AuPair คืออะไร ?

ฮัลโหลลลล สวัสดีค่ะทุกโค๊นนนน วันนี้ก็มาพบกับกิ๊ฟอีกเช่นเคยเลยนะค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ช่วงนี้วุ่ยวายมากกกก คือการบ้านจัดหนักจัดเต็ม และเรื่องเล่นก็เช่นกัน(รู้สึกอันนี้จะไม่เกี่ยว - - 5555 ) ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบบบอย่างเดียวเลย ก็มีเครียดบ้างไรบ้างเนอะ แต่ทำไงได้ มันคืออนาคตเรา เราต้องสู้ 55555 โอเคๆ กลับเข้ามาเรืื่องในวันนี้ก่อน คือ ขอบอกเลย กิ๊ฟเป็นคนที่อยากเป็นอยู่เมืองนอกมากก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา พูดง่ายๆเลยคือ เป็นประเทศในฝันของหลายๆคนเลยค่ะ ก็ได้สอบชิงทุนแลกเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนกัน ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ถึงได้เราก็ไม่มีตัง ก็เลยตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่า ถ้าฉันขึ้นมหาลัยเมื่อไรนะ ฉันจะเก็บตังแล้วไปสมัครโครงการไปเมืองนอกให้ได้ วันนี้ก็เลยมีโครงการดีๆ อีกโครงการหนึ่งที่เหมาะกับวัยเด็กมหาลับหรือเด็กที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาลัยโครงการหนึ่งมาแนะนำค่ะ ซึ่งโครงการที่เรารู้จัก แน่นอนค่ะนั้นก็คือ work and travel นั้นเอง แต่วันนี้กิ๊ฟจะมาเสนอโครงการ Au pair ซึ่งเป็นโครงการที่น่าสนใจมากๆๆๆเลยค่ะ(จากที่ได้อ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่ออแพร์ในอินเทอร์เน็ตมามากโคตร 5555 ) ซึ่งโครงการนี้จะเป็นอย่างไงเราไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ~~



โครงการ AuPair เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 18-26 ปี จากนานาประเทศทั่วโลก เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อหาประสบการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวชาว อเมริกัน เป็นระยะเวลา 1-2 ปี โดยจะทำหน้าที่เป็น Childcare Helper ภายใต้เงื่อนไขของวีซ่าประเภท J-1 (Cultural Visitor Exchange) โดย Au Pair จะต้องเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ต่ำกว่า 6 หน่วยการศึกษา ทั้งนี้จะได้รับทุนการศึกษามาจากครอบครัวชาว อเมริกัน และ เมื่อจบโครงการยังสามารถ เดินทางท่องเที่ยว ต่อในประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้อีก 30 วัน

คุณสมบัติของออแพร์
  • เพศหญิง-ชาย
  • อายุระหว่าง 18-26 ปี
  • สถานภาพโสด
  • ชอบทำงานกับเด็ก และมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กอย่างน้อย 200 ชั่วโมง
  • มีผู้รับรองการดูแลเด็กและผู้รับรองความประพฤติ
  • สื่อสารภาษาอังกฤษได้
  • จบการศึกษาขั้นต่ำมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า (ปวช,ปวส)
  • มีใบขับขี่รถยนต์(ไทย)แบบ 1 ปีหรือ 5 ปีก็ได้
  • ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ
  • สามารถอาศัยอยู่ที่อเมริกาเป็นเวลา 1 ปีได้
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์การเลี้ยงเด็กที่ดี โครงการของเราต้องการชั่วโมงเลี้ยงเด็กอย่างน้อย 200 ชั่วโมงในการที่จะไปเป็นออแพร์ ซึ่งรวมไปถึงการเลี้ยงเด็กที่บ้าน/แถวบ้าน(รวมถึงญาติ) การเป็นอาสาสมัครหรือทำงานเลี้ยงดูเด็กที่ศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาล การสอนกีฬาให้กับเด็กๆ การร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆที่โบสถ์ การสอนพิเศษหรือการบ้านให้เด็กๆ และประสบการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับเด็ก  

ถ้าจะกล่าวโดยสรุปง่ายๆเลยก็คือ โครงการ au pair เป็นโครงการที่จะให้เราเป็นทำหน้าเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวชาวอเมริกันและเราจะได้เงินตอบแทนจากการเลี้ยงเด็ก และเรายังสามารถเรียนต่อมหาลัยในอเมริกาได้อีกด้วยโดยมีเงินทุนการศึกษาให้ และยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถอยู่อเมริกาได้นานถึง 2 ปีซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าอยากอยู่ต่อมั้ย โอ้ม๊ายยยก๊อดดดด  มันเยี่ยมมากเลยซาร่าาา เริ่มจะอดใจรอไม่ไหวแล้วค่ะเพื่อนๆ กิ๊ฟว่า กิํฟขอตัวไปเตรียมตัวก่อนดีกว่าาาา บ๊ายยย บายยย

                 
                                       รายละเอียดเพิ่มเติม : http://american-learning.com/ap1.htm
                               : http://www.culturalcare.co.th/being-an-au-pair/the-au-pair-program/

Wednesday, May 13, 2015

รวม 6 เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินยอดนิยม เพื่อให้ได้ตั๋วราคาถูกที่สุด

สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่หลายคนอาจจะสงสัยว่า เวลาจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูกนั้นควรจองจากเว็บไหน บทความนี้ก็เลยมี “6 เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบิน” ที่หลายๆคนชอบใช้มาฝากกัน หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆกันน้าา

1 Skyscanner
Screen Shot 2558-05-11 at 12.39.34 PMเว็บไซต์นี้รวมทุกเว็บที่มีตั๋วเครื่องบินไว้ เอาไว้ดูทีเดียว รวดเดียว เปรียบเทียบราคาทีเดียวจบ

2 Orbitz
Screen Shot 2558-05-11 at 12.40.12 PMเว็บเอเจนซี่กลาง มีค่านายหน้าบ้าง เว็บก็ใช้ง่ายดี มีเช่ารถ โรงแรมครบ แต่ไม่ค่อยมีสายการบินพวก Lowcost

3 Kayak
Screen Shot 2558-05-11 at 12.41.01 PMระดับพอๆกับ Orbitz แต่ไม่มีภาษาไทย น่าเชือถือเหมือนกัน

4 Expedia
Screen Shot 2558-05-11 at 12.41.33 PMเหมือนกับ Orbitz Kayak แต่มีเวอร์ชันภาษาไทยด้วย

5 Cheaptickets
Screen Shot 2558-05-11 at 12.42.00 PMมีภาษาไทย นี่ก็มีให้เลือกเยอะแยะเหมือนกัน หลายคนบอกว่าถูกจริงกว่าใครเพื่อน

6 Ar-pae.com
Screen Shot 2558-05-11 at 12.42.34 PMนักเดินทางท่องเฟซบุคน่าจะรู้จักกันดี ราวกับว่าแอดมินเพจนี้นั่งเฝ้าหน้าจอเช็คราคาสายการบินตลอดเวลา แนะนำให้ตั้งค่า Get Notifications เอาไว้เลย รับรองไม่พลาดตั๋วถูกแน่นอน
ขอบคุณแหล่งที่มา: http://www.wegointer.com/2015/05/compare-cheap-flights-webs/

รวม “อักษรย่อภาษาอังกฤษ” ที่วัยรุ่นต่างชาติชอบใช้ และที่พบเจอได้บ่อยๆ

ในการฝึกภาษาอังกฤษ การแชทกับคนต่างชาติก็เป็นวิธีที่ช่วยได้มากเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีปัญหาตรงที่ วัยรุ่นต่างชาติอาจจะชอบใช้อักษรย่อในการแชท แล้วทำให้คนไทยอย่างเราไม่เข้าใจ

abb1

บทความนี้ผมเลยได้รวบรวมเอา อักษรย่อที่วัยรุ่นต่างชาติใช้กัน มาฝากเพื่อนๆ รวมไปถึงอักษรย่อที่เจอบ่อยๆในต่างประเทศ คราวนี้การแชทกับคนต่างชาติก็คงไม่เป็นปัญหาอย่างที่แล้วๆมาแล้วละครับ

BFF = Best Friend Forever = เพื่อนรักตลอดกาล
LOL = Laughing out Loud = ขำกลิ้ง ฮาแตก
TC = Take Care = ดูแลตัวเองนะ
LUV = LOVE = รัก
OSM = Awesome = เจ๋งมากๆ
BTW = By the Way = ยังไงก็ตาม
OMG = Oh My God! = โอ้พระเจ้า
P.S = Post Script = ปล.
MHM = Yes! = ใช่ เห็นด้วย มาจากเสียง อื้ม
JK = Just Kidding = ล้อเล่น
IOU = I Owe You = ฉันติดหนี้เธอนะ
ASAP = As Soon As Possilbe = เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
Ave = Avenue = ถนนที่มีสายหลัก
99 = Nighty Night =  Good Night
PC = Personal Computer = คอมพิวเตอร์
WTF = What The F**K
BYOB = Bring Your Own Beer = สามารถนำเบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายมากินเองได้
SMS = Short Message Service = บริการส่งข้อความ
VS = Versus = ตรงข้ามกัน / ต่อสู้กัน
Corp = Corporation = บริษัท สมาคม
B-R-B = Be Right Back = เดี๋ยวกลับมา
TTYL = Talke to You later = คุยกันวันหลังนะ
ATM = At the moment = ในตอนนี้
BC = Because = เพราะว่า
BG = Big grin = (ยิ้มอยู่)
BOTOH = But on the other hand = แต่ในทางกลับกัน
BTDT = Been there, done that = ไปมาแล้วทำเรียบร้อยแล้ว
BTW = By the way = อย่างไรก็ตาม
COZ = Because = เพราะว่า
CU = See you = แล้วเจอกัน
CUL or CUL8R = See you later = แล้วเจอกัน
EZ = Easy = ง่าย
FAQ = Frequently asked questions = คำถามที่ถามบ่อย
FYI = For your information = แจ้งเพื่อรับทราบ
GJ = Good job = ทำได้ดีมาก!
GL = Good luck = โชคดีนะ
GRT = Great = เยี่ยม!
GW = Good work = ทำได้ดีมาก
HAND = Have a nice day = โชคดีนะ
IC = I see = เข้าใจล่ะ
IMO = In my opinion ฉันคิดว่า…
IMPOV = In my point of view = ฉันคิดว่า….
IOW = In other words = ถ้าจะพูดอีกอย่างก็..
IRL = In real life = ในชีวิตจริง
JIC = Just in case = เผื่อไว้
JTLYK = Just to let you know =แค่บอกให้รู้ไว้
KIS = Keep it simple = เอาง่ายๆ
KIT = Keep in touch = ติดต่อกันอีกนะ
NBD = No big deal = ไม่มีปัญหาเรื่องเล็กน้อย
NP = No problem = ไม่มีปัญหา
NVM = Never mind = ไม่เป็นไร
PCM = Please call me = โทรมาหาที
PLS = Please = ได้โปรด
PLZ = Please = ได้โปรด
Q = Question = คำถาม
SIT = Stay in touch = แล้วติดต่อกันใหม่
SOZ, SRY = Sorry = ขอโทษที
SYS = See you soon = แล้วพบกันใหม่
THX = Thanks = ขอบใจจ้า
TLP = Tham Love Pay = ขอบใจจ้า
TIA = Thanks in advance = ขอบคุณล่วงหน้า
TY = Thank you = ขอบคุณ
U = You = คุณ
WB = Welcome back = ขอต้อนรับกลับมา
WFM = Works for me = สำหรับฉันแล้วได้ผลนะ
XOXO = Hugs and kisses = รักนะจุ๊บๆ
Y = Why = ทำไม
YW = You are welcome ด้วยความยินดี
ข้อมูลจาก: dek-d
จากเว็บไซต์: http://www.wegointer.com/2014/06/abbreviations/

Wednesday, February 4, 2015

จัดอันดับ 100 คำศัพท์ภาษาฝรั่งเศส ที่ถูกใช้มากที่สุด!!



1. le (det.) the; (pron.) him, her, it, them 
2. de (det.) some, any; (prep.) of, from 
3. un (det.) a, an; (adj., pron.) one
4. à (prep.) to, at, in
5. être (verb) to be; (noun [m.]) being
6. et (conj.) and
7. en (prep.) in, by; (adv., pron.)
8. avoir (verb) to have; (noun [m.]) assets
9. que (adv., pron., conj.) that, which, who, whom 
10. pour (prep.) for, in order to

11. dans (prep.) in, into, from
12. ce (det., pron.) this, that
13. il (pron.) he, it 
14. qui (pron.) who, whom 
15. ne (adv.) not
16. sur (prep.) on, upon; (adj.) sour
17. se (pron.) oneself, himself, herself, itself, themselves 
18. pas (adv.) not; (noun [m.]) footstep
19. plus (adv.) more, no more
20. pouvoir (verb) to be able to, can; (noun [m.]) power

21. par (prep.) by
22. je (pron.) I
23. avec (prep.) with
24. tout (adj., adv., pron., det.) all, very 
25. faire (verb) to do, make 
26. son (det.) his, her its; (noun [m.]) sound; bran
27. mettre (verb) to put, place
28. autre (det., pron.) other
29. on (pron.) one, we
30. mais (conj., adv.) but

31. nous (pron.) we, us 
32. comme (conj., adv.) like, as
33. ou (conj.) or 
34. si (conj.) if, whether; (adv.) so
35. leur (det., pron.) their, theirs, them 
36. y (adv.) there; (pron.) it
37. dire (verb) to say; (noun [m.]) saying
38. elle (pron.) she, her
39. devoir (verb) to have to, owe; (noun [m.]) duty
40. avant (prep., adv.) before; (noun [m.]) front
41. deux (det., noun [m.]) two
42. même (adj., pron.) same; (adv.) even
43. prendre (verb) to take
44. aussi (adv.) to, also; (conj.) as
45. celui (pron.) that, the one, he, him
46. donner (verb) to give
47. bien (adv.) well; (noun [m.]) good
48.  (adv., pron.) where
49. fois (noun [f.]) time(s)

50. vous (pron.) you
51. encore (adv.) again, yet
52. nouveau (adj.) new; (noun [m.]) new (thing) 
53. aller (verb) to go
54. cela (pron.) that, it
55. entre (prep.) between56. premier (det., adj.) first
57. vouloir (verb) to want; (noun [m.]) will, desire 
58. déjà (adv.) already 
59. grand (adj., adv.) great, big, tall
60. mon (det.) my

61. me (pron.) me, to me, myself
62. moins (adv.) less; (prep., noun [m.]) minus
63. aucun (det., adj., pron.) none, either, neither, not any
64. lui (pron.) him, her 
65. temps (noun [m.]) time
66. très (adv.) very
67. savoir (verb) to know; (noun [m.]) learning, knowledge 
68. falloir (verb) to take, require, need
69. voir (verb) to see 

70. quelque (det., adj., adv.) some 
71. sans (prep.) without
72. raison (noun [f.]) reason
73. notre (det.) our
74. dont (pron.) whose, of which
75. non (adv.) no, not76. an (noun [m.]) year
77. monde (noun [m.]) world, people
78. jour (noun [m.]) day
79. monsieur (noun [m.]) mister, sir, gentleman
80. demander (verb) to ask for

81. alors (adv.) then, so
82. après (adv., prep.) after
83. trouver (verb) to find
84. personne (noun [f.]) person; (pron.) anyone, nobody 
85. rendre (verb) to render, return, yield, give up
86. part (noun [f.]) share
87. dernier (adj). last
88. venir (verb) to come
89. pendant (adj.) during; (prep.) for; (noun [m.]) pendant

90. passer (verb) to pass
91. peu (adv.) little
92. lequel (pron.) who, whom, which 
93. suite (noun [f.]) result, follow-up, rest 
94. bon (adj., adv.) good; (noun [m.]) coupon, voucher 
95. comprendre (verb) to understand96. depuis (prep., adv.) since 
97. point (adv.) at all; (noun [m.]) point
98. ainsi (adv.) thus
99. heure (noun [f.]) hour
100. rester (verb) to stay





#ขอขอบคุณบทความดีๆจากเว็บไซต์ wegointer ด้วยค่ะ